การฝึกใช้ห้องน้ำมุ่งหวังที่จะช่วยให้เด็กเรียนรู้ที่จะทำให้กระเพาะปัสสาวะหรือลำไส้ของเขาว่างเปล่าในเวลาที่เหมาะสมในสถานที่ที่เหมาะสม ความพร้อมในการควบคุมลำไส้และกระเพาะปัสสาวะขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ทางสรีรวิทยาของเด็ก นอกจากนี้ยังเป็นกระบวนการเรียนรู้แบบค่อยเป็นค่อยไป เด็กส่วนใหญ่ประสบความสำเร็จในการควบคุมช่วงกลางวันระหว่างอายุ 2.5 ถึง 4 ขวบและเลิกปัสสาวะรดที่นอนเมื่ออายุ 8 ขวบ เด็กมีจังหวะการพัฒนาที่ต่างกัน การทำความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของลูกของคุณและสังเกตุความคืบหน้าของลูกมีความสำคัญสำหรับการฝึกการใช้ห้องน้ำที่ประสบความสำเร็จ

ฝึกการใช้ห้องน้ำเมื่อไหร่?

ไม่มีกฎระเบียบที่เคร่งครัดเกี่ยวกับอายุที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มต้นการฝึกใช้ห้องน้ำ เงื่อนไขที่จำเป็นคือความพร้อมทางร่างกายและจิตใจของเด็ก โดยทั่วไปแล้วเด็ก ๆ จะเริ่มแสดงอาการให้เห็นถึงความพร้อมเมื่อายุประมาณ 18 ถึง 24 เดือน

การเริ่มฝึกใช้ห้องน้ำตั้งแต่อายุยังน้อยไม่ได้หมายความว่าลูกของคุณจะฝึกการใช้ห้องน้ำเสร็จเร็วขึ้น การเร่งฝึกก่อนที่ลูกของคุณจะพร้อมอาจทำให้เธอรู้สึกต่อต้านและสร้างความไม่พอใจกับทั้งเด็กและคุณ ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ตึงเครียดได้ หากเด็กแสดงการต่อต้าน วิตกกังวลหรือกลัว อย่ากดดันเธอ เธอเป็นผู้ที่ควบคุมร่างกายของเธอเอง

พยายามหลีกเลี่ยงการฝึกใช้ห้องน้ำในยามที่กิจวัตรประจำวันอาจถูกรบกวนเช่น ไปเที่ยวพักผ่อน ย้ายบ้าน มีลูกใหม่หรือป่วย ในสถานการณ์เช่นนี้ จะเป็นการดีกว่าที่จะเลื่อนการฝึกใช้ห้องน้ำออกไปจนกว่าทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติและอารมณ์ของเด็กปกติ

สัญญาณความพร้อมสำหรับการฝึกใช้ห้องน้ำ

สังเกตรูปแบบการปัสสาวะและคราบสกปรกของเด็กระยะเวลาหนึ่ง สิ่งที่ปรากฏต่อไปนี้อาจเป็นสัญญาณว่าเขาพร้อมแล้ว:

• ผ้าอ้อมของเขายังคงแห้งอยู่อย่างน้อยสองชั่วโมงในเวลากลางวันหรือตื่นขึ้นมาด้วยผ้าอ้อมแห้งหลังงีบในเวลากลางวัน
• สามารถคาดเดาการขับถ่ายของเขาได้
• เขาสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำง่ายๆ ได้และแสดงให้คุณเห็นสีหน้า ท่าทางหรือคำพูดว่ากระเพาะปัสสาวะหรือท้องของเขาเต็ม เช่น หน้าแดง หยุดการกระทำของเขาอย่างฉับพลัน ดึงกางเกง กุมเป้า นั่งยองๆ หรือพูดว่า 'ฉี่ ฉี่' ฯลฯ
• เขาแสดงความสนใจที่จะไปห้องน้ำหรือนั่งบนกระโถน
• เขารู้สึกเป็นกังวลเมื่อผ้าอ้อมของเขาสกปรกหรือเปียก

การเตรียมความพร้อมสำหรับการฝึกใช้ห้องน้ำ

• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกของคุณได้รับปริมาณของเหลวและเส้นใยที่เพียงพอต่อวัน มันจะช่วยให้อุจจาระของเธอนุ่มและออกง่าย ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสที่เธอต้องการไปห้องน้ำ การที่กระเพาะปัสสาวะเต็มบ่อยๆ ทำให้เธอมีโอกาสในการฝึกซ้อมเข้าห้องน้ำมากขึ้น
• ปล่อยให้ลูกของคุณได้มีส่วนร่วมในการเลือกกระโถนของตัวเอง ก้นกระโถนควรมีฐานที่กว้างพื่อที่จะไม่ล้มหงายท้อง กระโถนนั่งที่มีขอบเรียบเป็นแบบที่สะดวกสบายมากที่สุดสำหรับเด็ก มีที่กันปัสสาวะกระเด็นที่ด้านหน้าของกระโถนนั่งจะดีกว่าสำหรับเด็กผู้ชาย แทนที่จะใช้กระโถนคุณอาจพิจารณาใช้ที่นั่งสำหรับเด็กวางไว้บนชักโครกสำหรับผู้ใหญ่พร้อมกับที่เหยียบวางใต้เท้าของเด็กเพื่อช่วยหนุน
• วางกระถางในที่ๆ ลูกของคุณสามารถเอื้อมถึงได้ง่าย เช่น ใกล้พื้นที่เล่นของเธอหรือที่มุมห้องนั่งเล่น ควรวางกระโถนไว้ที่จุดเดิม
• ก่อนที่จะเริ่มต้นการฝึกใช้ห้องน้ำ ให้ลูกของคุณได้รู้จักกระโถน คุณอาจปล่อยให้เธอนั่งบนกระโถนในขณะที่ทำอย่างอื่นหรือแกล้งทำเป็นเล่นเพื่อฝึกใช้ตามขั้นตอน
• บอกเล่าเรื่องราวหรือเล่นเกมเกี่ยวกับการฝึกห้องน้ำกับเธอ
• เริ่มต้นการฝึกใช้ห้องน้ำในฤดูที่อุ่นกว่านี้อาจจะง่ายกว่า การสวมชุดที่บางและเบาช่วยให้เด็กเรียนรู้ที่จะดึงกางเกงของเธอได้ง่ายขึ้น
• ในระหว่างวัน ให้เด็กสวมเสื้อผ้าหลวม ๆ และกางเกงที่ถอดออกได้ง่ายแทนการใส่ผ้าอ้อม คุณอาจเลือกใช้กางเกงผ้าขนหนูในการฝึก ซึ่งผ้าขนหนูดูดซับ 'อุบัติเหตุ' และช่วยให้เด็กรู้ว่าพวกเขาเปียก ดังนั้นหยุดความเชื่อมโยงระหว่างการปล่อยปัสสาวะหรืออุจจาระในผ้าอ้อมแล้วทำตัวตามสบาย
• ลูกของคุณอาจเรียนรู้ได้ดีขึ้นโดยการเลียนแบบพ่อแม่หรือพี่น้องที่มีเพศเดียวกันในการเข้าห้องน้ำ

ต้องทำอย่างไรในการฝึกใช้ห้องน้ำ?

เมื่อคุณและลูกของคุณพร้อม คุณอาจเริ่มต้นการฝึกใช้ห้องน้ำ อย่าลืมทำกิจวัตรประจำวันดังต่อไปนี้อย่างสม่ำเสมอ:

1. เลือกเวลาที่เหมาะสมเพื่อเริ่มต้น จะเป็นการเริ่มต้นที่ดีขึ้นหากคุณสามารถเผื่อเวลาครึ่งวันที่บ้านและรู้สึกผ่อนคลาย
2. สังเกตดูว่าลูกของคุณมีรูปแบบประจำของการปัสสาวะและถ่ายหรือไม่ พาเขาไปห้องน้ำในช่วงเวลาดังกล่าว
3. คุณอาจขอให้เขาใช้ห้องน้ำ/กระโถนเมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า หลังอาหารหรือก่อนนอน เมื่อถึงเวลา เวลาที่เขาจะใช้ห้องน้ำจะค่อยๆ พอดีกับกิจวัตรประจำวันของเขา
4. อธิบายให้ลูกของคุณทราบถึงขั้นตอนในการเข้าห้องน้ำ:
   1. บอกแม่หรือพ่อ
   2. ไปที่ห้องน้ำ /กระโถน
   3. ถอดกางเกงออก
   4. นั่งบนชักโครก /กระโถน
   5. พยายามฉี่หรืออึ
   6. เช็ดทำความสะอาด
   7. สวมกางเกง
   8. ล้างมือ

5. คอยดูสัญญาณว่าลูกของคุณต้องการไปห้องน้ำเมื่อไหร่ ถามเขาว่าเขาต้องการที่จะฉี่หรืออึ จากนั้นก็กระตุ้นให้เขาทำตามขั้นตอนด้วยความผ่อนคลาย
6. ถ้าเขาปฏิเสธที่จะไปห้องน้ำ อย่าบังคับเขา ให้รอครั้งต่อไป
7. ถ้าเขาปัสสาวะหรืออุจจาระในกระโถนสำเร็จ ก็ให้ชมเขา ถ้าเขานั่งกระโถนสักพักแล้วแต่ไม่ถ่าย คุณยังคงต้องชมเขาสำหรับการนั่ง ปล่อยให้เขาลุกขึ้นและกลับไปเล่น

เคล็ดลับเพิ่มเติม

• เมื่อให้เด็กผู้ชายปัสสาวะอย่ายืนยันให้พวกเขายืนฉี่ ในช่วงเริ่มต้นของการฝึก การนั่งลงอาจเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า
• เมื่อเริ่มต้นฝึกเข้าห้องน้ำ ให้ยืนอยู่ข้างๆ ลูกและให้ความช่วยเหลือเมื่อต้องการ
• การฝึกเข้าห้องน้ำที่ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องใช้เวลาและความอดทน
• เมื่อลูกของคุณบังเอิญอึหรือฉี่ใส่กางเกง ใจเย็นๆ ค่อยๆ ช่วยเธอทำความสะอาดและหลังจากนั้นให้เตือนเธอถึงขั้นตอนการเข้าห้องน้ำ

ฉันควรทำอย่างไรถ้าลูกของฉันไม่ยอมให้ฉันถอดผ้าอ้อม?

เด็กบางคนอาจต่อต้านการใช้ห้องน้ำหรือกระโถนในการอึ ปล่อยให้เด็กนั่งบนกระโถนทั้งๆ ที่ยังสวมผ้าอ้อม หลังจากที่เธอได้อึแล้ว ให้ถอดผ้าอ้อมออกและใส่ลงในกระโถน คุณสามารถลองใส่ผ้าอ้อมลงในกระโถนก่อนที่เธอจะนั่งโดยทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ใช้เวลานานแค่ไหน?

เด็ก ๆ แต่ละคนต่างต้องการเวลาสำหรับการฝึกใช้ห้องน้ำต่างกัน บางคนอาจใช้เวลาฝึก 3 ถึง 4 สัปดาห์ในขณะที่บางคนใช้เวลานานกว่านั้น แม้ว่าการฝึกการใช้ห้องน้ำจะเสร็จสิ้นแล้ว เด็ก ๆ อาจจะเจอกับอุบัติเหตุและแม้แต่การฝ่อในช่วงเวลาที่เครียด อย่ากังวลหากลูกของคุณทำได้ช้ากว่าหรือเร็วกว่าคนอื่น การเรียนรู้ที่จะปัสสาวะอาจจะง่ายกว่าการถ่ายอุจจาระในกระโถน เป็นเรื่องปกติที่เด็ก ๆ หลายคนยืนยันที่จะถ่ายในผ้าอ้อมเด็ก การคงไว้ซึ่งความสนใจของลูกของคุณในกิจกรรมการฝึกใช้ห้องน้ำจะช่วยให้เขาเติบโตขึ้นตามรูปแบบในท้ายที่สุด จงอดทนและสนุกกับกระบวนการเพราะเขาใช้เวลาในการเรียนรู้

เรามีชุดการประชุมเชิงปฏิบัติการการดูแลเด็กและการเลี้ยงลูก และแผ่นพับสำหรับพ่อแม่ที่คาดหวัง พ่อแม่ของเด็กทารกและเด็กก่อนวัยเรียน กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ด้านการดูแลสุขภาพเพื่อสอบถามข้อมูล