เมื่อบุตรของท่านอายุสองถึงสามปี ท่านอาจพิจารณาพาเขาเข้าเรียนที่โรงเรียนเด็กก่อนวัยเรียน นอกเหนือจากการเลือกโรงเรียนเด็กก่อนวัยเรียนที่เหมาะสมแล้ว การช่วยเหลือบุตรของท่านในเรื่องการปรับตัวที่โรงเรียนก็สำคัญเช่นกัน ก่อนเริ่มเข้าเรียนในโรงเรียนเด็กก่อนวัยเรียน มีหลายสิ่งที่ท่านสามารถช่วยเหลือบุตรของท่านในการปรับตัวได้

เลือกโรงเรียนเด็กก่อนวัยเรียนอย่างไร

เป้าหมายของการศึกษาระดับก่อนชั้นประถมคือการจัดหาบรรยากาศที่สนับสนุนพัฒนาการที่สมดุลของเด็กในด้านสังคม อารมณ์ ความคิดและร่างกาย และการพิจารณาถึงความต้องการที่จะเรียนรู้ของพวกเขา โรงเรียนเด็กก่อนวัยเรียนมีบรรยากาศสบาย ๆ และมีความสุขที่ซึ่งเด็กได้เรียนรู้วิธีการปฏิบัติตามกฎ การเข้ากับเพื่อนและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและอารมณ์กับผู้อื่น พัฒนาการด้านสังคมที่ดีจะเพิ่มมุมมองด้านอื่น ๆ ในการเรียนรู้ของเด็ก

1. คุณสมบัติของครูและอัตราการบรรจุ

   ครูอนุบาลหรือพนักงานดูแลเด็กควรมีใบรับรองที่เป็นที่ยอมรับ พวกเขาต้องมีความอ่อนโยนและตอบสนองต่อเด็ก รัฐบาลได้ก่อตั้งกฎระเบียบของอัตราครู/พนักงานต่ออัตราส่วนของเด็ก ซึ่งจะเป็นเรื่องง่ายมากขึ้นสำหรับครู/พนักงานในการเข้าถึงความต้องการของเด็กแต่ละคนหากมีเด็กจำนวนน้อยกว่าภายใต้การดูแลของพวกเขา

2. หลักสูตร

   หลักสูตรควรตั้งเป้าหมายไปที่การอำนวยความสะดวกต่อการเรียนรู้ผ่านการเล่นและการสำรวจ ซึ่งควรตอบสนองต่อความต้องการด้านพัฒนาการของเด็กและการจัดหาสิ่งที่ต้องการไว้สำหรับความสามารถที่หลากหลายของพวกเขา การให้ความสำคัญกับการเรียนด้านวิชาการมากเกินไปเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น เช่น การเริ่มสอนให้เด็กเขียนก่อนการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กที่พร้อมเมื่ออายุประมาณ 4 ปีนั้นเป็นเรื่องไม่เหมาะสม

3. สิ่งแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวก

   สภาพแวดล้อมทางกายภาพควรถูกสุขอนามัย มีแสงไฟเพียงพอ มีอากาศถ่ายเท และปลอดภัยต่อเด็ก พร้อมทั้งควรมีพื้นที่มากพอสำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งควรพร้อมด้วยอุปกรณ์การเรียนการสอนที่จำเป็นเพื่อให้มีสภาพแวดล้อมแห่งการเรียนรู้ที่สมบูรณ์

4. สถานที่และระยะทางจากบ้าน
   

   การไปโรงเรียนเด็กก่อนวัยเรียนที่ใกล้บ้านจะช่วยลดความเหนื่อยล้าจากการเดินทางของเด็ก หากการเดินทางนั้นจำเป็น ควรจัดการให้เกิดความตึงเครียดน้อยทีสุดเท่าที่เป็นไปได้

   ก่อนที่จะสมัครเข้าเรียน ท่านสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับโรงเรียนเด็กก่อนวัยเรียนได้โดยการไปเยี่ยมชม การสังเกตเด็กที่โรงเรียนว่าเขาเรียนรู้ พูดคุยกับครูและผู้ปกครองอย่างไร

การเตรียมพร้อมต่อการเริ่มเรียนที่โรงเรียนเด็กก่อนวัยเรียน

เมื่อเริ่มเข้าเรียนที่โรงเรียนเด็กก่อนวัยเรียน อาจเป็นเรื่องยากสำหรับเด็กวัยหัดเดินที่จะแยกออกจากผู้ดูแลที่คุ้นเคยและไปที่ที่มีคนแปลกหน้า กิจวัตรประจำวันและการสอนใหม่ ๆ การเตรียมพร้อมล่วงหน้าสองถึงสามเดือนอาจช่วยให้กระบวนการปรับตัวง่ายขึ้น:

1. การสนับสนุนให้เด็กดูแลตนเองเบื้องต้น

   สนับสนุนให้เด็กเรียนรู้วิธีการดูแลตัวเองเบื้องต้น เช่น สวมใส่เสื้อผ้า เข้าห้องน้ำหรือทำความสะอาด ซึ่งจะส่งเสริมให้เขาพึ่งพาตนเองและมีความมั่นใจในการรับมือกับชีวิตในโรงเรียนเด็กก่อนวัยเรียนได้

2. ตั้งกฎและกิจวัตรง่าย ๆ ที่บ้าน

   ตั้งกฎง่าย ๆ ที่บ้าน: ให้เด็กเรียนรู้วิธีการปฏิบัติตามคำสั่งและการเปลี่ยนกิจกรรมตามคำขอ

3. สนับสนุนกิจกรรมที่ให้บุตรของท่านได้อยู่เงียบ ๆ และนั่งอยู่กับที่

   ให้บุตรของท่านคุ้นชินกับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ฟังเรื่องเล่า วาดรูป หรืองานศิลปะและงานประดิษฐ์ซึ่งต้องให้เขานั่งลงและให้ความสนใจเป็นระยะเวลาหนึ่ง

4. การสร้างโอกาสในการร่วมกิจกรรมกับเด็กคนอื่น ๆ

   พาบุตรของท่านไปที่สนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ ปาร์ตี้วันเกิด หรือพบเพื่อนบ้าน ให้เขาร่วมกิจกรรมกับเด็กคนอื่น ๆ เรียนรู้ที่จะแบ่งปันและสลับหน้าที่กัน

5. การก้าวข้ามผ่านความวิตกกังวลในการแยกกัน

   บุตรของท่านอาจรู้สึกวิตกกังวลเมื่อแยกออกห่างจากผู้ปกครองหรือผู้ดูแลหลักของเขา เพื่อช่วยให้เขาก้าวข้ามผ่านความวิตกกังวลในการแยกกันเมื่อเริ่มเข้าเรียนที่โรงเรียนเด็กก่อนวัยเรียน ให้เขาฝึกฝนการแยกกันอยู่ล่วงหน้า:

   • ตามหาพี่เลี้ยงเด็กที่บุตรของท่านชอบ ขณะที่เขาทำกิจกรรมที่น่าสนใจร่วมกับพี่เลี้ยงเด็ก ให้บอกเขาว่าท่านจะไปข้างนอกสักครู่ โดยบอกสถานที่ที่จะไปและจะกลับมาเมื่อใด จากนั้นบอกลาเขา เนื่องจากแนวคิดด้านเวลาของเขายังไม่พัฒนาอย่างถูกต้อง ท่านอาจเชื่อมโยงเวลาเข้ากับกิจกรรมหรือกิจวัตรประจำวันเฉพาะอย่างเพื่อช่วยให้เขาเข้าใจได้ เช่น 'แม่จะกลับมาหลังจากลูกทานข้าวเย็นเสร็จนะ' ให้รักษาสัญญาและตรงต่อเวลา ในการฝึกแยกห่างกัน ขั้นแรกให้ปล่อยเขาไว้เป็นเวลาสักสองสามนาที จากนั้นค่อย ๆ เพิ่มระยะเวลาขึ้น ท่านอาจฝากสิ่งของของท่านกับเขา เช่น เสื้อโค้ทของท่านและขอให้เขาเก็บไว้จนกว่าท่านจะกลับมาเพื่อให้ความรู้สึกปลอดภัยของเขาแข็งแกร่งขึ้น
   • ขณะที่มีปฎิสัมพันธ์กับบุตรของท่าน ให้หลีกเลี่ยงการใช้คำขู่ที่อาจทำให้เขาเกิดความวิตกกังวลในเรื่องการถูกทอดทิ้ง (เช่น 'แม่/พ่อไม่ต้องการลูกแล้ว' หรือ 'ออกไปจากประตู') ซึ่งจะทำให้เด็กไปโรงเรียนด้วยความรู้สึกไม่ดี (เช่น 'แม่/พ่อจะให้ครูลงโทษลูก')
6. การให้บุตรของท่านสนใจชีวิตในโรงเรียน
   • พาบุตรของท่านเยี่ยมชมโรงเรียนเตรียมอนุบาลหรือโรงเรียนอนุบาลใกล้บ้าน ท่านอาจพาบุตรของท่านไปด้วยเมื่อท่านไปส่งบุตรคนพี่ไปโรงเรียน การอ่านหรือเล่าเรื่องชีวิตในโรงเรียนที่น่าสนใจให้เขาฟังยังสามารถกระตุ้นความสนใจของเขาได้อีกด้วย
   • ก่อนโรงเรียนเริ่ม ทำให้บุตรของท่านคุ้นชินกับเส้นทางไปโรงเรียน เล่นเหมือนกับว่ากำลังจะไปโรงเรียนกับเขา ให้เขาใส่ชุดนักเรียนและแกล้งถือกระเป๋านักเรียนชิ้นใหม่
   • การเข้าร่วมโปรแกรมการปฐมนิเทศเป็นโอกาสที่ดีสำหรับบุตรของท่านต่อการรู้จักสภาพแวดล้อมของโรงเรียน เขาสามารถพบครูและพยายามใช้ของเครื่องใช้ของโรงเรียนได้ วิธีนี้จะช่วยลดความวิตกกังวลในเรื่องของสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ และทำให้เขาเกิดความประทับใจที่ดีต่อโรงเรียนได้
   • พยายามแบ่งเวลาเล็กน้อยจากการทำงานและเป็นเพื่อนเขาในการไปโรงเรียนใช่ช่วงแรก ๆ โรงเรียนเด็กก่อนวัยเรียนบางแห่งสนับสนุนให้ผู้ปกครองอยู่กับบุตรของตนในคาบแนะแนว (ใช้เวลาไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์) ซึ่งช่วงเวลานี้จะสั้นลงเรื่อย ๆ เพื่อแนะนำเด็กให้รู้จักชีวิตใหม่ในโรงเรียนและให้เขาปรับตัวกับการแยกจากผู้ปกครอง

เตรียมพร้อมสำหรับปัญหาเล็กน้อยที่โรงเรียนแม้ว่าท่านได้เคยทำมาก่อนแล้วก็ตาม เป็นเรื่องปกติที่เด็กจะร้องไห้ ลุกออกจากที่นั่ง แย่งของเล่น กระวนกระวายหรือมีพฤติกรรมเสื่อมถอยชั่วคราว (เช่น ปัสสาวะรดที่นอนหรือเกาะติดผู้ปกครอง) การติดต่อกับครูบ่อยครั้งอยู่เสมอเพื่อทำความเข้าใจเรื่องการปรับตัวที่โรงเรียนของเขาและเพื่อสร้างความร่วมมือกับโรงเรียนในการตอบสนองความต้องการของเขาจะช่วยให้บุตรของท่านใช้ชีวิตในโรงเรียนได้อย่างมีความสุข

เรามีชุดเวิร์กชอปและแผ่นพับ "การเลี้ยงดูอย่างมีความสุข!" สำหรับผู้ปกครองที่ตั้งครรภ์ ผู้ปกครองของทารกแรกเกิดและเด็กก่อนวัยเรียน โปรดติดต่อบุคลากรทางการบริการสุขภาพของเราสำหรับข้อมูล