บริการสุขอนามัยสำหรับครอบครัว - การเลี้ยงดูบุตรชุดที่ 8 - สร้างวินัยให้บุตรวัยหัดเดินของท่านในทางบวก

(เนื้อหาปรับปรุงใหม่ 12/2019)

การรู้จักบุตรของท่าน

การที่สามารถเดินและพูดได้หลังจากเกิดได้หนึ่งปี บุตรวัยหัดเดินของท่านจะกลายเป็นเด็กที่อิสระมากขึ้น เขาจะผลีผลามไปในการสำรวจและทดลองความสามารถใหม่ของเขา อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์น้อยของท่านยังไม่สามารถคิดได้อย่างครอบคลุม ดังนั้นดูเหมือนว่าลูกน้อยของท่าน ที่ครั้งหนึ่งเคยพึ่งพิงและเชื่อฟังท่าน ได้อยู่เหนือการควบคุมของท่านไปเล็กน้อยแล้ว ท่านอาจพบว่าเขาทดสอบขีดจำกัดของท่านอยู่บ่อย ๆ ทำตรงข้ามกับสิ่งที่ท่านสั่งและทำให้ท่านอารมณ์เสีย แต่เขา ไม่ได้กำลังทำมันอย่างตั้งใจ เพื่อท้าทายท่าน เด็กอาจอยู่ในระยะนี้ยาวนานจนถึงเข้าอนุบาล ในเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดสำหรับท่านในการช่วยบุตรให้ได้เรียนรู้สิ่งที่เขาทำได้และทำไม่ได้

ใช้วินัยเชิงบวก

วินัยเชิงบวกสร้างบนความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างผู้ปกครอง-บุตรซึ่งรวมถึงความเข้าใจและความไว้วางใจซึ่งกันและกันระหว่างท่านและบุตรของท่านด้วย วินัยเชิงบวกหมายถึงการใช้หนทางที่ สร้างสรรค์และไม่เจ็บปวดที่จะส่งเสริมพัฒนาการของพฤติกรรมทางสังคมและมโนภาพแห่งตนในทางบวกในบุตรของท่าน ซึ่งรวมถึงการตระหนักถึงความรู้สึกของบุตรของท่าน ความเข้าใจในความต้องการด้านพัฒนาการ แสดงให้เห็นคุณค่าและสนับสนุนพฤติกรรมที่พึงปรารถนาและการตั้งค่าและการรักษาขีดจำกัดที่สมเหตุสมผล เหล่านี้ช่วยให้ท่านจัดการกับบุตรของท่านอย่างใจเย็นละช่วยให้บุตรของท่านเติบโตขึ้นเป็นเด็กที่มีความสุขและให้ความร่วมมือ

ให้ความสนใจและชื่นชม

การชื่นชมเป็นการทำให้เสียเด็กหรือไม่

เด็กไม่ถูกทำให้เสียโดยการชื่นชม ในความเป็นจริง มีเพียงคนที่ได้รับการชื่นชมหรือได้รางวัลจากผู้ใหญ่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่มีแนวโน้มที่จะหลงใหลได้ปลื้มไปกับการยกย่องชมเชยได้ง่าย พวกเขายังมีแนวโน้มที่ต้องการรางวัลก่อนการปฏิบัติตามคำขออีกด้วย

บุตรวัยหัดเดินของท่านต้องการความสนใจและการชื่นชมจากท่านเพื่อสร้างความมั่นใจในตัวเองในการสำรวจและเรียนรู้ เด็ก ๆ ที่ได้รับการยกย่องชมเชยบ่อย ๆ โดยผู้ปกครองของเขาเกี่ยวกับพฤติกรรมที่พึงประสงค์ที่เจาะจงจะมีความเคารพในตัวเองสูงซึ่งในที่สุดจะทำให้เขาพึ่งพิง ความเห็นชอบและรางวัลภายนอกเพื่อที่จะประพฤติตัวดีน้อยลง พวกเขายังมีแนวโน้มมากกว่าที่จะ เห็นผู้อื่นในแง่บวกอีกด้วยเมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น

  • ใจกว้างที่จะสนใจฟังและยกย่องชมเชยบุตรของท่าน

    ยกย่องชมเชยบุตรของท่านเมื่อใดก็ตามที่ท่านเห็นเขามีพฤติกรรมที่ดี พฤติกรรมในทุก ๆ วันที่เรามักมองข้าม เช่น การนั่งลงเล่นเงียบ ๆ หรือไม่หยิบฉวยสิ่งของที่เธอไม่สามารถสัมผัสได้เป็นพฤติกรรมด้านบวกที่สมควรได้รับความสนใจและการยกย่องชมเชยจากท่าน ความสนใจในทันทีของท่านในพฤติกรรมด้านบวกของเธอจะเพิ่มโอกาสที่เธอจะทำมันซ้ำอีก

  • การให้ความสนใจแก่บุตรของท่านโดย:
    • การมองและการยิ้ม
    • การสัมผัสอย่างนุ่มนวล
    • การโอบรับและการกอด
    • การปรบมือ
    • การยกนิ้วหัวแม่มือขึ้น
    • การย่อตัวลงไปยังระดับสายตาของเขาขณะพูดคุย
  • เมื่อยกย่องชมเชยบุตรของท่าน:
    • พูดในแง่บวกเช่น "เป็นเด็กดีจังเลย เล่นด้วยตัวเองได้แล้ว! "ขอบใจที่นั่งทานอาหารที่เก้าอี้ของตัวเองนะจ๊ะ" "เยี่ยมยอดมากเลยจ้ะ ที่ไม่ไปยุ่งกับมัน"
    • ตรงไปตรงมา สั้น และ เฉพาะเจาะจง
    • หลีกเลี่ยงการวิจารณ์และทำให้อับอายซึ่งอาจทำลายการยกย่องชมเชยของท่านและทำให้เด็กสับสน เช่น "เป็นเด็กดีมาก แต่ขอร้องอย่าซนอีกนะ"
    • ให้บุตรของท่านทราบทันทีว่าท่านกำลังยกย่องชมเชยเธอเรื่องอะไร
    • ยกย่องชมเชยในความพยายามของเธอแทนที่จะเป็นความสำเร็จเพื่อรักษาแรงจูงใจของเธอและปรับพฤติกรรมของเธอไปสู่ทิศทางที่พึงปรารถนา
  • เวลาคุณภาพและกิจกรรมที่มีส่วนร่วม

    บุตรวัยหัดเดินที่กระตือรือร้นของท่านต้องการความสนใจและเวลาของท่านเป็นอย่างมาก พยายามอย่างดีที่สุดที่จะ ใช้เวลาพิเศษนี้แม้ว่าอาจจะเป็นเวลาสั้น ๆ ที่จะเล่นและพูดคุยกับเขาในทุก ๆ วัน "คุณภาพของเวลา" ที่ท่านสนุกด้วยกันจะสร้างความแน่นแฟ้นในความผูกพันของท่านและ เพิ่มความไว้วางใจของเขากับท่าน การตั้งค่าพื้นฐานสำหรับการจัดการพฤติกรรมที่มีประสิทธิผล

    บางครั้งท่านอาจจะยุ่งเกินไปที่จะแบ่งเวลาแม้สั้น ๆ ให้กับเขา ทำให้แน่ใจว่ามีกิจกรรมที่มีส่วนร่วมกับเขาในเวลานั้นเพื่อที่เขาจะได้มีโอกาสที่น้อยลงที่จะมีปัญหา กิจกรรมควรจะ น่าสนใจสำหรับเขาและเหมาะสมกับระดับพัฒนาการของเขา นอกจากของเล่นแล้ว กล่องเปล่า ภาชนะหรือเครื่องใช้ในบ้านที่คงทนก็สามารถสร้างความสนุกและสร้างสรรค์ได้ ท่านอาจรักษาความแปลกใหม่ของกิจกรรมสำหรับบุตรของท่านโดยนำไปเก็บบ้างเป็นระยะ ๆ เพื่อการหมุนเวียนอย่าลืมที่จะส่งเสริมเขาโดยให้ความสนใจและยกย่องชมเชยสั้น ๆ กับเขา เมื่อเขามองและเดินใกล้กับท่าน ในขณะที่เขายังคงมีส่วนร่วมกับกิจกรรมดังกล่าว

การตั้งค่าขีดจำกัดและจัดการพฤติกรรมไม่พึงประสงค์

บุตรวัยหัดเดินของท่านมักมีส่วนร่วมในการสำรวจที่กระตือรือร้นแต่เขาอาจไม่ทราบว่าอะไรที่เขาควรหรือไม่ควรทำ เขาไม่ได้ตั้งใจทำมันเพื่อท้าทายท่าน

เด็กวัยหัดเดินนั้นเด็กเกินไปที่จะมีกฎหรือไม่

บุตรของท่านต้องการ การตั้งค่าขีดจำกัดที่ชัดเจนและสม่ำเสมอเพื่อช่วยให้เขาเข้าใจความต้องการจากผู้ใหญ่ หากท่านอนุญาตให้บุตรของท่านทำอะไรก็ได้ที่เขาต้องการโดยมีขีดจำกัดที่ชัดเจนเพียงไม่กี่ข้อ ท่านจะพบว่าเมื่อเขาได้พัฒนารูปแบบพฤติกรรมที่ไม่สามารถยอมรับได้ขึ้นแล้วจะเป็นเรื่องยากในการควบคุมเขา การช่วยให้เขาบรรลุการทำตามกฎและควบคุมตนเอง โดยการตั้งค่าขีดจำกัดจะทำให้การเลี้ยงดูบุตรง่ายและมีความสุขยิ่งขึ้น

การตั้งค่าขีดจำกัดจะทำให้เด็กมีความรู้สึกที่ต้องพึ่งพามากเกินไปหรือไม่

ความสามารถของบุตรวัยหัดเดินของท่านที่จะคิดแบบมีตรรกะและตัดสินใจยังคงกำลังพัฒนาอยู่ เขาต้องการการควบคุมดูแลจากท่านเพื่อรับรองความปลอดภัยของเขา ที่สำคัญกว่านั้น การชี้นำของท่านสามารถช่วยให้เขา เข้าใจว่าพฤติกรรมใดที่ยอมรับได้และยอมรับไม่ได้ และปรับตัวและจัดการอย่างประสบความสำเร็จกับความต้องการที่มีต่อเขา

เด็ก ๆ อาจจะรู้สึกอึดอัดกับกฎและขีดจำกัดที่มากเกินไป มีหลายครั้งที่ท่านสามารถส่งเสริมบุตรของท่านในการพัฒนาการพึ่งพาตนเองและการแก้ปัญหาโดยการอนุญาตให้เขาทำการตัดสินใจที่เหมาะกับอายุได้ เช่น ท่านอาจให้เขาสำรวจหนทางที่แตกต่างกันในการเล่นภายในขีดจำกัดที่สมเหตุสมผล หรือเลือกเสื้อผ้าหรือขนมที่เขาชอบจากสองสามตัวเลือก

การตีหรือขู่จะได้ผลมากกว่าหรือไม่

การตีหรือขู่อาจหยุดบุตรของท่านจากการประพฤติตัวไม่เหมาะสมได้ในทันที อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์มีอายุสั้นความจำของเด็กวัยหัดเดินยังสั้นและเขาอาจลืมผลจากการกระทำที่ไม่พึงประสงค์นี้ในไม่ช้า เขาจำเป็นที่จะต้อง เรียนรู้จากท่านถึงวิธีการปฏิบัติตัวที่ยอมรับได้ มิฉะนั้นเขาจะเพียงแค่ทำพฤติกรรมที่ไม่น่าพึงประสงค์นี้ซ้ำอีก การใช้หนทางของวินัยเชิงบวกที่ สร้างสรรค์และไม่อันตรายจะมีประสิทธิผลมากกว่าในการสอนบุตรของท่านให้ประพฤติดี

ขั้นตอนในการจัดการพฤติกรรม

  1. ตั้งกฎของบ้านง่าย ๆ 2-3 ข้อ เช่น 'ลุกจากที่นั่งเฉพาะเมื่อทานข้าวเสร็จเท่านั้น' กำหนดให้ชัดเจนถึง พื้นที่ในบ้านที่บุตรวัยหัดเดินของท่านไม่สามารถเข้าไปได้ (เช่น ห้องครัว)
  2. ชุดของกฎจะต้องมีความสม่ำเสมอและผู้ดูแลทุกคนต้องปฏิบัติตาม อย่างหนักแน่น
  3. การให้ คำสั่งที่ชัดเจน
    • เมื่อบุตรของท่านไม่ทำตามกฎให้ใจเย็นไว้ ลองตั้งชื่อความรู้สึกและความต้องการของเขา จากนั้นพูดกับเธออย่างหนักแน่นว่า "ไม่" พร้อมภาษากายที่แสดงถึงคำว่า "ไม่ ไม่" ยกย่องชมเชย เธอหากเธอหยุด หากเธอไม่หยุด ชี้แนะเธอให้ทำตามคำสั่ง เช่น อุ้มเธอขึ้นมาและวางเธอกลับลงไปยังที่นั่งของเธอหรือเดินนำเธอออกมาจาก "พื้นที่หวงห้าม" จากนั้นรักษาให้เธอมีส่วนร่วมในกิจกรรมบางอย่างที่น่าสนใจ หรือโดยการทำให้กิจกรรมที่เธอจะต้องทำมีความน่าสนใจ
    • หากเธอทำสิ่งที่อันตราย ให้หยุดเธอทันที และ บอกเธออย่างชัดเจนว่าอะไรที่เธอควรจะทำแทน เช่น "อย่าจับรูปลั๊กไฟ มานี่ มาเล่นกับแม่มา" "หยุดปีน ลงมาเล่นลูกบอลนี่" จากนั้นยกย่องชมเชยเธอที่ปฏิบัติตามและมีส่วนร่วมกับเธอในกิจกรรมที่น่าสนใจ
  4. หากบุตรวัยหัดเดินของท่านยังคงไม่ยอมเชื่อฟัง หรือแม้กระทั่งกรีดร้องหรือทิ้งตัวลงนอนบนพื้นเพื่อประท้วง ท่านอาจใช้วิธีต่อไปนี้เพื่อช่วยควบคุมอารมณ์ของเธอและเพื่อให้ได้ความร่วมมือ:
    • เด็กวัยหัดเดินที่ยังเล็กจะเอาแต่ใจตนเองและความสามารถของพวกเขาที่จะควบคุมอารมณ์และทนต่อความหงุดหงิดได้นั้นมีจำกัด เมื่อพวกเขาผิดหวัง พวกเขาอาจแสดงออกได้อย่างง่ายดายซึ่งบ่อยครั้งผู้ใหญ่มักเรียกว่า "อารมณ์เกรี้ยวกราด" พวกเขาอาศัยการชี้แนะของผู้ปกครองในการควบคุมอารมณ์ของพวกเขาเอง เมื่อการตอบสนองทางอารมณ์ของบุตรของท่านมีความรุนแรง ท่านสามารถอยู่กับเธอ ปลอมเธออย่างนุ่มนวลหรือกอดเธอและรับรู้ความรู้สึกของเธอและแสดงความต้องการของเธอด้วยคำพูดง่าย ๆ เช่น: "หนูโกรธเพราะหนูไม่สามารถได้มันเดี๋ยวนี้" ลองชี้แนะเธอให้ร่วมมือกันเมื่อทั้งคู่รู้สึกดีขึ้น
    • บางครั้งพวกเขาอาจเรียกร้องความสนใจ เช่น โดยการร้องตะโกนและกลิ้งลงบนพื้นเพื่อดูว่าท่านจะตอบสนองอย่างไรหรือเพื่อทดสอบว่าท่านจะทำอย่างที่ท่านพูดหรือไม่ หากพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของเธอไม่รุนแรงและทั้งท่านและเธออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ท่านอาจใช้ "การเพิกเฉยที่วางแผนไว้แล้ว" เช่น ไม่ให้ความสนใจเธอหรืออะไรก็ตาม ไม่แม้แต่จะมองเธอ เมื่อใช้อย่างถูกต้องและหนักแน่น พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์เหล่านั้นจะหายไปในไม่ช้า แต่หากท่านให้ความสนใจเธอไม่ว่าทางใด รวมถึงยิ้ม พูดคุยหรือตะโกนใส่เธอ พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์นั้นจะได้รับการสนับสนุนโดยความสนใจของท่านและจะเป็นต่อไป เมื่อถอนความสนใจของท่านระหว่างการเพิกเฉยที่วางแผนไว้แล้ว ให้เตรียมไว้ว่าพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของเธอจะแย่ลงในตอนเริ่มต้น อย่างไรก็ตามหากท่านยืนกรานที่จะทำต่อ เธอจะหยุดกระทำพฤติกรรมนั้น และทันทีที่เธอหยุดพฤติกรรมไม่เหมาะสม ท่านสามารถให้ความสนใจเธอได้ทันทีและนำเธอไปยังกิจกรรมอีกอย่างหนึ่ง
  5. หากเธอยังคงประท้วงต่อหรือแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดถึงระดับที่คนอื่น ๆ อาจได้รับผลกระทบ ท่านอาจจำเป็นต้องดึงเธอออกมาจากสถานที่นั้น ใจเย็น และดำเนินการในลักษณะตามความเป็นจริง โอบกอดบุตรของท่านจากด้านหลัง ยึดแขนท่อนบนและลำตัวของเธอเพื่อลดการต่อสู้ อย่าตอบสนองอย่างอื่นจนกว่าเธอจะสงบลง ด้วยวิธีนี้เธอจะได้รับการช่วยเหลือด้วยวิธีที่ไม่ทำให้เธอต้องคับแค้นใจ ท่านกำลังให้การปกป้องเธอและให้ความรู้สึกที่ปลอดภัยผ่านการยับยั้งที่ไม่สร้างความเจ็บปวดและนำเธอออกจากสถานการณ์นั้น ในขณะเดียวกัน ลักษณะที่หนักแน่นของท่านบอกเธอว่าท่านจะยึดการปฏิบัติตามกฎ
  6. เมื่อเธอสงบลงให้ชมเชยเธอที่เงียบและให้ความร่วมมือ จากนั้น ให้เธอกลับไปทำกิจกรรมที่มีส่วนร่วม

เด็กวัยหัดเดินทุกคนมีลักษณะเฉพาะพิเศษ เป็นไปได้ที่บุตรของท่านอาจจะต้องการเวลายาวนานขึ้นเพื่อเข้าใจและทำตามวินัยของท่าน ตราบเท่าที่ท่านยืนหยัดอย่างสม่ำเสมอในวินัยเชิงบวก - เลี้ยงดูบุตรของท่านด้วยความสนใจเชิงบวกและมีการให้กำลังใจ และการจัดการเขาอย่างมีสติ หนักแน่นและอดทนภายในขีดจำกัดที่ชัดเจน - เขาจะเรียนรู้ที่จะทำตามกฎของสังคม สามารถควบคุมตนเองได้ และสร้างความนับถือในตนเองขึ้นมาในระหว่างพัฒนาการของเขา

เรามีชุดเวิร์กชอปและแผ่นพับ "การเลี้ยงดูอย่างมีความสุข!" สำหรับผู้ปกครองที่ตั้งครรภ์ ผู้ปกครองของทารกแรกเกิดและเด็กก่อนวัยเรียน โปรดติดต่อบุคลากรทางการบริการสุขภาพของเราสำหรับข้อมูล