บุหรี่ทำร้ายครอบครัวคุณ

(เนื้อหาปรับปรุงใหม่ 01/2020)

ควันบุหรี่ไม่ได้ทำอันตรายต่อผู้สูบเองเท่านั้น แต่ยังทำร้ายเพื่อนร่วมงาน เพื่อน หรือครอบครัวอีกด้วย

ผู้ที่ได้รับควันบุหรี่ทางอ้อมจะได้รับโอกาสแบบเดียวกับการสูบบุหรี่ด้วยตัวเอง

ตัวอ่อนทารกและเด็กคือผู้สูบบุหรี่ทางอ้อม

หญิงมีครรภ์ที่สูบบุหรี่จะทำร้ายทารกในครรภ์อย่างแน่นอน ทำให้

  • เด็กเสียชีวิตขณะคลอด และมีโอกาสรอดหลังคลอดน้อย
  • เพิ่มความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนด
  • เพิ่มความเสี่ยงที่จะมีน้ำหนักตัวน้อยหลังคลอด และ
  • งานวิจัยบางงานเผยว่าสารก่อมะเร็งที่อยู่ในควันบุหรี่สามารถเข้าสู่ตัวอ่อนในครรภ์ผ่านสายรกได้

งานวิจัยพบอีกว่าการสูบบุหรี่ทางอ้อมจะทำให้เกิดโรคไหลตายในทารก (SIDS) และส่งผลให้มีโรคในระบบหายใจส่วนล่าง (โรคปอดบวมและโรคหลอดลมอักเสบ) และทำให้ทารกและเด็กมีโรคหอบหืด ดังนั้นเด็กทารกจะต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดบุหรี่

ควันบุหรี่ยังอาจทำให้เกิดความเสียหายถาวรต่อบุตรของท่าน แต่ท่านสามารถป้องกันได้ โดยการหยุดสูบบุหรี่ตอนนี้

ถึงพ่อและแม่

หยุดสูบบุหรี่เสีย หากยังสูบต่อพ่อแม่ควรรู้ไว้ว่าท่านเป็นคนใส่ความทุกข์ให้กับเราเหล่าลูก ๆ ของท่าน

  • เราหายใจไม่ออกเพราะว่าบ้านมีแต่ควันบุหรี่ มีแต่ก้นบุหรี่ที่มาจากท่านทั้งนั้น
  • เพราะพ่อแม่สูบบุหรี่ไง เราถึงไอ น้ำตาไหล และยังเพิ่มโอกาสที่เราจะเป็นโรคทางหลอดลมอีกด้วย
  • เพราะพ่อแม่สูบบุหรี่ไง คนรอบ ๆ ข้างจึงรู้สึกไม่ชอบหรือไม่สบายใจเมื่ออยู่ใกล้ แล้วดูฟันเหลือง ๆ ของท่านสิ ลมหายใจก็เหม็น และรอยตีนกาก็เต็มหน้าไปหมด
  • เพราะพ่อแม่สูบบุหรี่ไง ถึงไม่ใช่ต้นแบบที่ดี เราต้องห้ามตัวเองไม่ให้สูบบุหรี่เพื่อจะได้ไม่เป็นเหมือนท่าน
  • พ่อกับแม่ก็บอกว่าเงินสำคัญตลอดแต่ก็เอาไปซื้อบุหรี่ และเราแทบไม่ได้ของเล่นเลย
  • การสูบบุหรี่ยังทำให้ท่านออกกำลังกายไม่ได้ ทำให้อายุสั้น ทำให้เวลาเหลือน้อย เราเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงไม่ชอบพาเราไปเดินเล่น
  • รัฐบาลเตือนไว้ว่า "บุหรี่คร่าชีวิต" เราไม่อยากเป็นเด็กกำพร้า

เด็กที่ไม่เคยสูบบุหรี่ก็ต้องมาประสบปัญหาโรคร้ายทางระบบหายใจ เพราะสูบบุหรี่ทางอ้อมจากบ้าน

  • โรคในโพรงจมูก ร้อยละ 17
  • โรคในลำคอ ร้อยละ 35
  • ไอ ร้อยละ 54
  • เสมหะ ร้อยละ 44
  • หายใจติดขัด หอบหืด ร้อยละ 12

(ข้อมูลจากสภารณรงค์เลิกสูบบุหรี่และส่งเสริมสุขภาพฮ่องกง - รายงานหมายเลข 5: การสูบบุหรี่และการสูบบุหรี่ทางอ้อมในเด็กและเยาวชน 1998)

ในข้อมูลเผยว่าการสูบหรือรับควันบุหรี่ทางอ้อมของเด็กนั้น จะเพิ่มโอกาสให้มีปัญหาติดเชื้อในระบบหายใจ ไอ มีเสมหะ และทำให้หายใจขัดข้อง

งานวิจัยอื่น ๆ พบว่าทารกที่ได้รับควันบุหรี่ในช่วงอายุ 3 เดือนแรกจะมีแนวโน้มป่วยเป็นโรคติดต่อมากขึ้น การรับควันบุหรี่ทางอ้อมนี้ทำให้เด็กในช่วงอายุถึง 8 ปีมีโอกาสมากขึ้นที่จะได้รับการส่งเข้าโรงพยาบาลจากการรับเชื้อจากโรคติดต่อ และที่สำคัญที่สุดคือพบว่าเด็กในครอบครัวที่มีผู้สูบบุหรี่ จะมีโอกาสเลียนแบบสูบบุหรี่เมื่อโตขึ้น มากกว่าเด็กในครอบครัวที่ไม่มีผู้สูบบุหรี่

ดังนั้น เพื่อบุตรของท่าน ท่านควรหยุดสูบบุหรี่ตั้งแต่วันนี้! งานวิจัยพบว่าการบำบัดโดยใช้นิโคติน (NRT) หรือการบำบัดโดยการปรึกษาส่วนตัวล้วนเพิ่มโอกาสที่จะเลิกบุหรี่ได้สำเร็จ หากเทียบกับการเลิกด้วยตนเอง

สายด่วนเลิกบุหรี่:  
สายด่วนเลิกบุหรี่แบบบูรณาการของกรมอนามัย: 1833 183
"สายเลิก" (สายด่วนเลิกบุหรี่) จากองค์การโรงพยาบาล 2300 7272

เว็บไซต์:

เว็บไซต์สำนักงานควบคุมยาสูบและแอลกอฮอล์ของกรมอนามัย http://www.taco.gov.hk