ความเจ็บป่วยเล็กน้อยในการตั้งครรภ์ระยะกลางและการจัดการ
ระหว่างการตั้งครรภ์ ฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น เอสโตรเจน โปรเจสเตอโรน และโปรแลคติน ได้เปลี่ยนแปลงร่างกายของผู้เป็นแม่ให้เป็นสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับทารกในครรภ์ การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องปกติ
- ความเจ็บป่วยเล็กน้อยส่วนใหญ่ในการตั้งครรภ์จะลดลงหลังคลอดโดยธรรมชาติ ดังนั้นหญิงมีครรภ์ไม่จำเป็นต้องกังวล
- ควรหลีกเลี่ยงสมุนไพรและยาระหว่างการตั้งครรภ์ระยะแรก ๆ เพราะตัวยาเหล่านี้สามารถเข้าถึงระบบการไหลเวียนเลือดของตัวอ่อนผ่านทางรกได้ ยาบางประเภทมีผลเป็นพิษหรือมีผลต่อความผิดปกติของการพัฒนาการร่างกายของทารกในครรภ์ ผู้หญิงตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์เสมอก่อนการใช้ยาใด ๆ
- น้ำมันหอมระเหยสำหรับอโรมาเทอราพีอาจไม่ปลอดภัยระหว่างการตั้งครรภ์ โปรดปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์ก่อนการใช้อโรมาเทอราพี
- การเพิ่มขึ้นของโปรเจสเตอโรนในระหว่างการตั้งครรภ์ก่อให้เกิดการขยายตัวของหลอดเลือด ดังนั้นจึงเกิดการสะสมเลือดในแขนขาช่วงล่าง
- ในขณะเดียวกันทารกในครรภ์ที่กำลังเติบโตจะเพิ่มความดันในช่องท้องและส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของเลือด ซึ่งส่งผลให้เป็นเส้นเลือดขอด มีอาการบวมที่แขนขาช่วงล่าง และเกิดตะคริวที่ขา
ตะคริวที่ขา
- สิ่งนี้มักเกิดขึ้นตอนพักผ่อนและดังนั้นจึงอาจมีผลกระทบต่อการนอน ซึ่งมักเป็นผลมาจากความตึงของกล้ามเนื้อ
- บางครั้งการอาเจียนอย่างรุนแรงอาจนำไปสู่การมีแคลเซียมและโปแตสเซียมในเลือดต่ำได้ซึ่งส่งผลให้เป็นตะคริว
- หากมีการอาเจียนอย่างรุนแรงในเวลาเดียวกัน อาจจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการชดเชยเกลือแร่ที่โรงพยาบาล
การยืดกล้ามเนื้อน่องเป็นประจำหรือก่อนเข้านอนสามารถช่วยแม่ตั้งครรภ์ในการลดการเป็นตะคริวที่ขาได้
การออกกำลังกายที่สามารถลดการเป็นตะคริวที่ขาได้
- ยืนข้างหน้ากำแพงด้วยระยะแขนหรือประมาณ 60 เซนติเมตร วางแขนของท่านบนผนัง
- ก้าวขาซ้ายของท่านไปข้างหน้า งอหัวเข่าซ้ายเล็กน้อย รักษาให้ขาขวาตรง ค้างไว้ 10 วินาที จากนั้นผ่อนคลาย
- ทำซ้ำที่ขาอีกข้างและทำซ้ำทั้งเซต 3 ครั้ง
- นั่งบนเก้าอี้
- ยืดขาขวาตรง ดึงฝ่าเท้าเข้าหาตัวด้วยผ้าขนหนู ค้างไว้ 10 วินาที จากนั้นผ่อนคลาย
- ทำซ้ำที่ขาอีกข้างและทำซ้ำทั้งเซต 3 ครั้ง
เคล็ดลับ
- ยืดกล้ามเนื้อน่องของท่านเล็กน้อยในกรณีที่ขาเป็นตะคริว
- หากท่านกำลังยืน ให้ยืดขาที่เป็นตะคริวโดยทำให้ขาตรงไว้
- นวดหรือใช้ประคบร้อนที่บริเวณน่องหากขายังเป็นตะคริวอยู่
เส้นเลือดขอด
- เส้นเลือดขอดคือเส้นเลือดบวมที่นูนใกล้กับผิวชั้นนอกของผิวหนัง มักจะเกิดขึ้นที่ขา บางครั้งเกิดขึ้นบริเวณแคมช่องคลอดระหว่างการตั้งครรภ์
เคล็ดลับ
- หลีกเลี่ยงการยืนเป็นเวลานาน ๆ
- หลีกเลี่ยงการนั่งด้วยขาไขว่ห้าง
- ใส่รองเท้าแบนแทนส้นสูงเนื่องจากกล้ามเนื้อน่องของท่านจะขยับได้ดีกว่าและส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด
- นั่งโดยยกขาขึ้นให้บ่อยเท่าที่ทำได้ เพื่อบรรเทาความไม่สบายตัว
- นอนโดยให้ขาสูงกว่าส่วนที่เหลือของร่างกายท่าน-ใช้หมอนหนุนใต้ข้อเท้าหรือวางหนังสือใต้เท้าของท่าน
- การออกกำลังกายเท้าและการออกกำลังกายก่อนคลอดอื่น ๆ เช่น การเดินและการว่ายน้ำ จะช่วยเรื่องการไหลเวียนเลือดของท่าน
- เพื่อป้องกันการคั่งของเลือดในขาของท่าน ในขณะที่ท่านยังนอนอยู่ให้สวมถุงเท้ายาวก่อนลุกออกจากเตียงในตอนเช้า วิธีนี้จะทำให้เลือดไหลไปที่หัวใจของท่านได้ง่ายกว่า
หากท่านมีเส้นเลือดขอดหรือต้องยืนเป็นระยะเวลานาน ท่านควรปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์เกี่ยวกับการสวมถุงน่องรักษาเส้นเลือดขอด
การออกกำลังกายสามารถทำให้กล้ามเนื้อน่องแข็งแรงได้และทำให้การไหลเวียนเลือดในแขนขาส่วนล่างดีขึ้น
- ยืนโดยใช้มือจับเก้าอี้ จากนั้นค่อย ๆ ยกส้นเท้าขึ้นและยืนบนนิ้วเท้า ค้างไว้ 5 วินาที จากนั้นผ่อนคลาย ทำเซตนี้ซ้ำ 5 ถึง 10 ครั้ง ทำหลาย ๆ ครั้งต่อวัน
- ท่านสามารถทำการออกกำลังกายแบบที่สองได้เมื่อนั่งบนเก้าอี้โดยงอเท้าขึ้นและลง
- หมุนเท้าตามเข็มนาฬิกาหรือทวนเข็มนาฬิกา
ความเจ็บปวดที่เท้า
น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นและการเปลี่ยนแปลงของจุดศูนย์ถ่วงระหว่างการตั้งครรภ์มีผลกระทบต่อวิธีการเดินของท่านเนื่องจากกล้ามเนื้อขาจะอ่อนล้าง่าย
เส้นเอ็นรองฝ่าเท้าอยู่ภายใต้การตึงที่เพิ่มขึ้นซึ่งนำไปสู่อาการปวดส้นเท้า ปวดเท้าและโรคเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ
เลือกรองเท้าที่สวมใส่สบายและมีพื้นที่เพียงพอและรองรับส่วนโค้งและข้อเท้าได้ดี รองเท้าที่มีส้นกว้างและความสูงพอเหมาะจะช่วยกระจายความตึงบนฝ่าเท้าได้
อาการปวดคอ ไหล่และหลัง
อาการปวดคอ ไหล่และหลังเป็นเรื่องปกติในระหว่างการตั้งครรภ์
สาเหตุ
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้เกิดการยืดที่เส้นเอ็น ข้อต่อกระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกรานและหัวหน่าวจะหลวมซึ่งส่งผลให้เกิดอาการปวดคอหลังและหัวหน่าว
- เมื่อทารกในครรภ์เติบโต จุดศูนย์ถ่วงของแม่จะเลื่อนไปข้างหน้า ซึ่งเป็นการเพิ่มน้ำหนักบนกล้ามเนื้อหน้าท้องและหลัง การอยู่ในท่าที่ดี การออกกำลังกายเป็นประจำและการออกกำลังกายยืดเส้นจะสามารถบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อได้
วิธีการที่จะปรับปรุงท่าทางของท่าน
- ในขณะยืน
- ถ่ายน้ำหนักบนเท้าให้เท่า ๆ กัน ผ่อนคลายไหล่และดึงไหล่ไปข้างหลังเล็กน้อย รักษาให้หลังตรงอยู่เสมอ
- รักษาให้ศรีษะตั้งตรง ให้ติ่งหูตรงกับไหล่เพื่อรักษาตำแหน่งคอให้ตั้งตรงกลาง
- เกร็งหน้าท้องและกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
หากท่านต้องยืนในบางโอกาส ให้ถ่ายการรับน้ำหนักไปด้านต่าง ๆ เป็นพัก ๆ
- เมื่อนั่ง
- เมื่อทำงานที่โต๊ะ ให้ปรับความสูงของที่นั่งเพื่อรักษาตำแหน่งของคอให้อยู่กึ่งกลาง
- ปรับความสูงที่นั่งหรือใช้ที่พักเท้าเพื่อที่เท้าทั้งสองจะได้พักบนพื้นและหัวเข่าจะได้อยู่ในมุมที่ถูกต้อง
- หลังควรได้รับการหนุนอย่างดีจากพนักพิงของเก้าอี้ ใช้หมอนอิงหรือหมอนเพื่อหนุนหลังหากจำเป็น
หลีกเลี่ยงการนั่งอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานาน เปลี่ยนอิริยาบถเป็นพัก ๆ โดยตึงกล้ามเนื้อหน้าท้องและอุ้งเชิงกรานอย่างแผ่วเบาเมื่อท่านขยับ
- เมื่อยืนขึ้นจากท่านั่ง
- ตึงกล้ามเนื้อหน้าท้องและอุ้งเชิงกราน
- วางมือของท่านบนต้นขาทั้งสองข้างหรือที่วางแขนของเก้าอี้เพื่อเป็นที่หนุน
- จากนั้นเอนตัวไปข้างหน้าเพื่อยืนขึ้น
- ในการลุกออกจากเตียง
- ให้ขาชิดกันและงอเข่า จากนั้นหมุนไปยังข้างหนึ่ง
- ตึงกล้ามเนื้อหน้าท้องและอุ้งเชิงกราน ดันร่างกายขึ้นด้วยทั้งสองมือและนั่งข้างเตียง
- วางมือบนต้นขาทั้งสองข้างเพื่อหนุนเอียงมาข้างหน้าจากนั้นก็ยืนขึ้น
- หลีกเลี่ยงการลุกขึ้นด้วยท่าซิทอัพ
- นอนหลับโดยการนอนตะแคงและพักหลังบนที่พิงเพื่อรองรับแผ่นหลังส่วนล่าง
การยกวัตถุหนัก
- เมื่อยกวัตถุหนัก ยืนให้ชิดกับวัตถุ
- งอเข่า ยืดขาเพื่อยก
- จำไว้ว่าให้ตึงกล้ามเนื้อหน้าท้องและหลังต้องตรงเสมอเมื่อท่านยก
- เมื่อถือวัตถุหนัก ให้ถือทั้งสองมือหรือใช้รถเข็น
- หลีกเลี่ยงหนุนเด็กด้วยหน้าท้อง ใช้ทั้งสองด้านของเอวเป็นตัวหนุนหากท่านจำเป็นต้องอุ้มเด็ก
ขอความช่วยเหลือถ้าจำเป็น
การออกกำลังกายยืดเส้นที่สามารถบรรเทาอาการปวดไหล่ คอและหลังได้
- การออกกำลังยืดคอ
- ในการยืดกล้ามเนื้อคอ ให้นั่งบนเก้าอี้พร้อมหลังตรง
- เก็บคาง ดึงหัวไปข้างหลังเล็กน้อย ค้างไว้ 5 วินาที จากนั้นผ่อนคลาย
- ทำซ้ำ 10 ครั้ง
- การออกกำลังกายยืดไหล่
- หมุนไหล่ขึ้นข้างบนเบา ๆ จากนั้นหมุนไปข้างหลังและหมุนลงข้างล่าง
- การออกกำลังกายยืดแขนส่วนบน
- ท่านสามารถทำได้ทั้งในตอนนั่งหรือยืน
- รักษาหลังให้ตรง นำนิ้วมือผสานกันโดยหันฝ่ามือออก จากนั้นยกแขนขึ้นเหนือหัวจนหลังส่วนบนและแขนยืดเล็กน้อย ค้างไว้ 5 วินาที จากนั้นผ่อนคลาย ทำซ้ำ 10 ครั้ง
- มือทั้งสองข้างแตะกันด้านหลัง ผสานนิ้วโดยนิ้วหัวแม่มือชี้ลงล่าง จากนั้นยกแขนขึ้นจนหน้าอกและแขนยืดขึ้นเล็กน้อย ค้างไว้ 5 วินาที จากนั้นผ่อนคลาย ทำซ้ำ 10 ครั้ง
- รักษาหลังให้ตรง ผสานนิ้วโดยหันฝ่ามือออก เหยียดแขนตรงและเอื้อมไปข้างหน้าจนหลังส่วนบนยืดเล็กน้อย ค้างไว้ 5 วินาที จากนั้นผ่อนคลาย ทำซ้ำ 10 ครั้ง
- ท่านสามารถทำได้ทั้งในตอนนั่งหรือยืน
- การยืดหลังช่วงล่าง
- ยืนโดยให้หลังและก้นพิงกำแพง ให้เท้าห่างกันในระยะเท่าไหล่
- พิงหลังและก้นของท่านกับกำแพง
- หายใจตามธรรมชาติ ตึงหน้าท้องเพื่อกดหลังส่วนล่างเข้ากับกำแพง
- ค้างไว้ 5 วินาที จากนั้นผ่อนคลาย
- ทำซ้ำ 10 ครั้ง
หญิงมีครรภ์ควรหยุดออกกำลังกายถ้ารู้สึกไม่ดี
การใส่เข็มขัดพยุงครรภ์และการทำกายภาพบำบัดสามารถลดอาการเจ็บที่หลังส่วนล่างได้ ปรึกษาแพทย์หากอาการแย่ลง
โรคริดสีดวงทวาร (Piles)
- เมื่อมดลูกโตมากขึ้นในการตั้งครรภ์ระยะท้าย ๆ ความดันอุ้งเชิงกรานจะเพิ่มขึ้นและอาจทำให้เกิดริดสีดวงได้
- ความดันอุ้งเชิงกรานจะยิ่งสูงขึ้นระหว่างการคลอดและริดสีดวงทวารอาจจะมีขนาดใหญ่ขึ้น
- บ่อยครั้งมากที่โรคริดสีดวงทวารจะลดลงไปเองโดยธรรมชาติภายในไม่กี่เดือนหลังคลอด
เคล็ดลับ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอทุกวันและบริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์สูงเพื่อหลีกเลี่ยงอาการท้องผูก
- ใช้ยารักษาเฉพาะที่เพื่อบรรเทาอาการปวด
- ปรึกษาแพทย์หากมีเลือดไหลออกมาจำนวนมากในขณะอุจจาระ
ปัญหาผิวหนัง
ผื่นคัน
ระหว่างการตั้งครรภ์ ผิวหนังจะบอบบางมากขึ้นและบางครั้งจะรู้สึกคันเพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ท่านอาจสังเกตเห็นตุ่มเล็ก ๆ สีแดงหรือรอยแดงขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยเกิดขึ้นโดยเฉพาะบนหน้าท้อง ขาและก้นของท่าน ในกรณีส่วนใหญ่ ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลและมันจะหายไปเองหลังการคลอดในไม่กี่สัปดาห์
เคล็ดลับ
- พยายามอย่าเกาเพราะจะยิ่งทำให้อาการคันแย่ลงและอาจก่อให้เกิดผิวหนังติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำด้วยน้ำร้อนที่มีไอน้ำ การถูผ้าขนหนูบนผิวหนังและการใช้สบู่ที่มากเกินไป
- สวมใส่เสื้อผ้าฝ้ายหลวม
- ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ในปริมาณที่เพียงพอ
หากท่านมีอาการต่อไปนี้ ท่านควรปรึกษาแพทย์ทันที เพราะอาจเกี่ยวข้องกับอาการน้ำดีคั่งในตับในช่วงตั้งครรภ์ หรือภาวะแทรกซ้อนในช่วงตั้งครรภ์
- ถุงน้ำเล็ก ๆ
- อาการคันที่รุนแรงและต่อเนื่องที่อาจส่งผลกระทบต่อการนอนหลับ
- ไข้ ดีซ่าน (ตาขาวและผิวหนังมีสีเหลือง) สีของปัสสาวะของท่านคล้ำลง ปวดข้อ
สิว
ท่านอาจมีสิวกำเริบเมื่อท่านตั้งครรภ์เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
เคล็ดลับ
- รักษาผิวของท่านให้สะอาดอยู่เสมอ
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่ร้อนและเผ็ด
- ท่านควรปรึกษาแพทย์แทนการใช้ยาจากร้านขายยาทั่วไปสำหรับสิวที่แย่ลง ยารักษาสิวบางชนิดอาจนำไปสู่ความพิการของทารกของท่านได้
ผิวแตกลาย (Striae)
- บ่อยครั้งผิวแตกลายเป็นผลมาจากการยืดขยายอย่างรวดเร็วของผิวหนัง หญิงตั้งครรภ์จำนวนมากจึงเกิดผิวแตกลายในช่วงครึ่งหลังของการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะหญิงที่ต้องรับน้ำหนักตัวที่มากของทารกหรือภาวะการตั้งครรภ์แฝด
- ผิวแตกลายมักจะปรากฎบนผิวหนังหน้าท้อง ต้นขาและเต้านม เริ่มแรกจะปรากฎเป็นสีชมพู เมื่อทารกเติบโตจะเปลี่ยนเป็นสีม่วง หลังคลอดจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีขาว กระนั้นผิวแตกลายอาจจะไม่หายไปโดยสมบูรณ์
เคล็ดลับ
- จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีครีมใดที่พบว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันผิวแตกลายได้อย่างสมบูรณ์
- การรักษาให้ผิวชุ่มชื้นเป็นอย่างดีโดยการทาโลชันและน้ำมันมะกอกจะช่วยลดความรุนแรงของผิวแตกลายได้
- ผิวแตกลายจะค่อย ๆ หายไปหลังการคลอด การออกกำลังกายหลังคลอดสามารถช่วยกระชับผิวที่หน้าท้องได้ (โปรดอ้างถึงแผ่นพับ “การออกกำลังกายหลังคลอด” )
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นโดยกรมอนามัยและแผนกกายภาพบำบัดขององค์การโรงพยาบาล