วิธีการจัดการเมื่อเกิดการแท้งบุตร
หากสตรีมีครรภ์รู้สึกปวดภายในท้อง หรือมีเลือดออกจากช่องคลอด ควรที่จะรีบไปปรึกษาแพทย์โดยด่วน
- อาจจะไปพบแพทย์ประจำครอบครัว สูตินรีแพทย์ หรือแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัย
- การทำอัลตร้าซาวด์เพื่อประเมินสภาพของทารกในครรภ์เป็นวิธีการที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ การวินิจฉัยว่าแท้งบุตรจะได้รับการยืนยันจากแพทย์ก็ต่อเมื่อหัวใจของทารกในครรภ์หยุดเต้นหรือกรณีที่ทารกในครรภ์หยุดการเจริญเติบโตแล้ว ดังนั้น การทำอัลตร้าซาวด์หลายๆ ครั้งเพื่อตรวจสอบว่าทารกในครรภ์มีการเจริญเติบโตหรือไม่นั้น บางครั้งก็เป็นสิ่งที่จำเป็นก่อนที่แพทย์สามารถยืนผลการวินิจฉัยได้
สิ่งที่สามารถทำได้ก่อนที่การแท้งบุตรจะได้รับการยืนยัน
การรักษาทางการแพทย์
ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ใดที่แสดงให้เห็นว่าการรักษาด้วยยาหรือฮอร์โมนใดๆ จะมีประสิทธิภาพในการรักษาการแท้งบุตรได้
การนอนพักบนเตียง
การนอนพักบนเตียงก็ไม่สามารถป้องกันการแท้งบุตรที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติได้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม การนอนพักบนเตียงก็ยังเป็นสิ่งที่แนะนำเมื่อสตรีมีครรภ์มีการตกเลือดอย่างหนัก
สิ่งที่พึงกระทำเมื่อการแท้งบุตรได้รับการยืนยันจากแพทย์
การเข้ารับการรักษา
หากการแท้งบุตรได้รับการยืนยัน การระบายของเสียออกจากมดลูกเป็นสิ่งที่แนะนำเพื่อที่จะนำทารกในครรภ์ซึ่งไม่สามารถเจริญเติบโตได้ออกมาจากช่องคลอดเพื่อหยุดเลือดและหลีกเลี่ยงการติดเชื้อภายใน
การระบายของเสียออกจากมดลูก
- จะมีการใช้ท่อดูดชนิดปากแคบสอดเข้าไปภายในมดลูกเพื่อดูดเอาเนื้อเยื่อที่เสียออกมา
- วิธีนี้สามารถทำได้โดยการใช้ยาชาเฉพาะที่หรือยาชาทั่วไป
- ความเจ็บปวดอาจมีหลายระดับหลังจากการผ่าตัด ซึ่งยาระงับปวดจะช่วยบรรเทาอาการได้
การฟื้นตัวหลังจากการแท้งบุตร
- การมีเลือดออกในช่องคลอดเป็นเรื่องปกติในช่วงสองสามวันแรกหลังจากการแท้งบุตรหรือเมื่อมีการระบายของเสียออกจากมดลูก
- สามารถดำเนินกิจวัตรประจำวันและการเคลื่อนไหวร่างกายได้เป็นปกติเมื่อรู้สึกว่าร่างกายฟื้นตัวแล้ว ซึ่งโดยปกติแล้วจะใช้เวลาหนึ่งถึงสองสัปดาห์หลังจากการแท้งบุตร
- การมีเพศสัมพันธ์สามารถกระทำได้หลังจากเลือดในช่องคลอดหยุดไหลแล้ว
คำเตือนหลังการผ่าตัด
หากมีเลือดออกในช่องคลอดอย่างหนักติดต่อกันเป็นเวลานานกว่าสองสัปดาห์ มีไข้หรือปวดท้องหลังจากการผ่าตัดภาวะการแท้งบุตร ให้รีบพบแพทย์โดยด่วน
การฟื้นคืนสภาพจิตใจหลังการแท้งบุตร
- เป็นสิ่งที่สำคัญมากหากมีการแท้งบุตรเกิดขึ้น เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของใครทั้งสิ้นรวมถึงสตรีมีครรภ์เองด้วย
- เป็นเรื่องปกติที่จะมีอารมณ์แปรปรวนหลังการแท้งบุตร เช่น อาการช็อค เสียใจ ซึมเศร้า วิตกกังวล รู้สึกว่าตัวเองล้มเหลว รู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า
- ผู้หญิงต้องการกำลังใจ ต้องการแบ่งปันความรู้สึกให้คนที่เธอไว้ใจได้รับรู้ เช่น คนรัก ญาติ เพื่อนสนิท หรือบุคลากรทางการแพทย์เพื่อที่จะช่วยให้เธอฟื้นจากความเศร้าโศกที่เกิดขึ้น
- ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ จงมองโลกแง่บวกและอย่าให้เงาแห่งความโศกเศร้าทั้งหลายตามมารังควานเราได้อีก
การวางแผนมีบุตรครั้งต่อไป
ทั้งนี้ อาจเป็นการดีกว่า หากปล่อยให้ระยะเวลาผ่านไปอีกสองหรือสามเดือนก่อนที่จะพยายามมีบุตรอีกครั้ง ให้เวลาแก่ฝ่ายหญิงได้ฟื้นตัวทั้งสภาพร่างกายและอารมณ์ให้กลับมาเป็นปกติพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ครั้งถัดไป